สื่อ เรื่อง สนุกวิทย์ by ครูสง่า
โทรทัศน์ครู อาจารย์สง่า ทรัพย์แฮง
สนุกวิทย์ คิดทดลอง ตอน ขวดประดาน้ำ แรงดันอากาศ (จากแหล่ง โทรทัศน์ครู)
ในการสอนนั้นการนำเข้าสู่บทเรียนนั้นสำคัญที่สุด เพราะเด็กจะเกิดการสนใจ
การสอนเรื่องขวดประดาน้ำ โดยใช้สื่อปลอกปากกาถ่วงลอยในขวดน้ำดื่ม แสดงการจม การลอยของมวลปลอกปากกา เด็กจะเกิดการสนใจ และมีความสนุกสนานในการเรียนและเด็กจะได้เปรียบเทียบกับเรือดำน้ำ การลอยจมของไข่ไก่ในตัวแปรต้นที่เป้นสารละลายเข้มข้นแตกต่างกัน โดยครูมีการตั้งคำถาม ให้เด็กคิดและทดลองเด็กก้จะหาวิธีและหาคำตอบให้ครู
สรุปวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย
สาระเกี่ยวกับธรรมชาตื และสิ่งแวดล้อมรอบตัวเด็กที่เด้กควรเรียนรู้ การเรียนการสอนมุ่งให้เด็กเกิดความเข้าใจมากกว่าที่จะจำเป็นองค์ความรู้ การเรียนวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัยแตกต่างจากเด็กวัยอื่นที่เด็กปฐมวัยมีการเจริญของสมองที่รวดเร็วและต้องการการกระตุ้นเพื่อการงอกงามของใยสมองในช่วงปฐมวัย
ทักษะทางวิทยาศาสตร์
เด็กปฐมวัยเป้นวัยที่เด็กมีความอยากรู้อยากเห็นต่อสิ่งแวดล้อมอยู่ตลอดเวลา เพราะเป็นวัยที่มีการพัฒนาทางสติปัญญา สูงที่สุดของชีวิต ทักษะกระบวนการทางวิทยาสาสตร์ เป็นทักษะที่ส่งเสริมให้เด็กปฐมวัยสามารถคิดหาเหตุผล แสวงหาความรู้ สามารถแก้ไขปัญหาได้ตามวัยของเด็ก ควรจัดกิจกรรมให้เด็กได้ลงมือกระทำด้วยตนเองจากสิ่งแวดล้อมรอบๆตัว
ทักษะการบานการทางวิทยาสาสตร์ อันเป็นกระบวนการขั้นพื้นฐานหรือทักษะเบื่องต้นที่ควรส่งเสริมให้เด็กปฐมวัยให้ได้รับการพัฒนา มี 7 ทักษะ
ทักษะกระบวนการ
- ทักษะการสังเกต
- ทักษะการจำแนกประเภท
- ทักษะการวัด
- ทักษะการสื่อความหมาย
- ทักษะการลงความเห็นจากข้อมูล
- ทักษะการหาความสัมพันธ์
- ทักษะการคำนวน
การสอนวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยเป็นการสอนข้อความรู้ ซึ่งต่างจาก การสอนให้รู้ความรู้ ตรงที่การสอนข้อควมรู้ต้องการความสนใจ การสังเกต การจำ และการเรียกความจำจากการเข้าใจถ่ายโยงได้ ไม่ใช่การท่องจำซึ่งตรงกับการเรียนวิทยาศาสตร์ที่เป้นการเรียนรู้จากการให้คิดและมีเหตุผล เกิดการเข้าใจมโนทัศน์ และสรุปเป๋็นข้อความรู้ด้วยตนเอง
การเรียนวิทยาสาสตร์ เป็นการพัฒนาศักยภาพทางปัญญา
1. ความสามารถในการสังเกต การจำแนก การแจกแจง การดูความเหมือน ความต่าง ความสัมพันธ์
2. ความสามารถในการคิด การคิดเป็นการจัดระบบความสัมพันธ์ของข้อมูลภาพ และสิ่งที่พบเห็นเข้าด้วยกัน เพื่อแปลตามข้อมูลหรือเชื่อมโยงข้ออ้างอิงที่พบไปสู่การประยุกต์ใช้ที่เหมาะสม การคิดเป็น คือ การคิดอย่างมีเหตุผล โดยคำนึงถึงหลักการวิชาการและบริบท
3.ความสามารถในการแก้ปัญหา ซึ่งมักจักเกิดขึ้นระหว่างการจัดกิจกรรม เด็กจะได้เรียนรุ้จากการค้นคว้าในการเรียนนั้นๆ
4.การสรูปข้อความรู้ หรือมโนทัศน์จากากรสังเกต และการทดลองจริงสำหรับเป็นพื้นฐานความรุ้ของการเรียนรู้ต่อเนื่อง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น