วันเสาร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2561

Research


สื่อ เรื่อง สนุกวิทย์   by ครูสง่า 
 



โทรทัศน์ครู อาจารย์สง่า ทรัพย์แฮง

สนุกวิทย์ คิดทดลอง ตอน ขวดประดาน้ำ แรงดันอากาศ (จากแหล่ง โทรทัศน์ครู)

ในการสอนนั้นการนำเข้าสู่บทเรียนนั้นสำคัญที่สุด เพราะเด็กจะเกิดการสนใจ
การสอนเรื่องขวดประดาน้ำ โดยใช้สื่อปลอกปากกาถ่วงลอยในขวดน้ำดื่ม แสดงการจม การลอยของมวลปลอกปากกา เด็กจะเกิดการสนใจ และมีความสนุกสนานในการเรียนและเด็กจะได้เปรียบเทียบกับเรือดำน้ำ การลอยจมของไข่ไก่ในตัวแปรต้นที่เป้นสารละลายเข้มข้นแตกต่างกัน โดยครูมีการตั้งคำถาม ให้เด็กคิดและทดลองเด็กก้จะหาวิธีและหาคำตอบให้ครู


สรุปวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย


    สาระเกี่ยวกับธรรมชาตื และสิ่งแวดล้อมรอบตัวเด็กที่เด้กควรเรียนรู้  การเรียนการสอนมุ่งให้เด็กเกิดความเข้าใจมากกว่าที่จะจำเป็นองค์ความรู้  การเรียนวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัยแตกต่างจากเด็กวัยอื่นที่เด็กปฐมวัยมีการเจริญของสมองที่รวดเร็วและต้องการการกระตุ้นเพื่อการงอกงามของใยสมองในช่วงปฐมวัย

ทักษะทางวิทยาศาสตร์

    เด็กปฐมวัยเป้นวัยที่เด็กมีความอยากรู้อยากเห็นต่อสิ่งแวดล้อมอยู่ตลอดเวลา เพราะเป็นวัยที่มีการพัฒนาทางสติปัญญา  สูงที่สุดของชีวิต ทักษะกระบวนการทางวิทยาสาสตร์ เป็นทักษะที่ส่งเสริมให้เด็กปฐมวัยสามารถคิดหาเหตุผล แสวงหาความรู้ สามารถแก้ไขปัญหาได้ตามวัยของเด็ก ควรจัดกิจกรรมให้เด็กได้ลงมือกระทำด้วยตนเองจากสิ่งแวดล้อมรอบๆตัว 
    ทักษะการบานการทางวิทยาสาสตร์  อันเป็นกระบวนการขั้นพื้นฐานหรือทักษะเบื่องต้นที่ควรส่งเสริมให้เด็กปฐมวัยให้ได้รับการพัฒนา มี 7 ทักษะ 

ทักษะกระบวนการ 

  - ทักษะการสังเกต
  - ทักษะการจำแนกประเภท
  - ทักษะการวัด 
  - ทักษะการสื่อความหมาย
  - ทักษะการลงความเห็นจากข้อมูล
  - ทักษะการหาความสัมพันธ์
  - ทักษะการคำนวน

    การสอนวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยเป็นการสอนข้อความรู้ ซึ่งต่างจาก การสอนให้รู้ความรู้ ตรงที่การสอนข้อควมรู้ต้องการความสนใจ การสังเกต การจำ และการเรียกความจำจากการเข้าใจถ่ายโยงได้ ไม่ใช่การท่องจำซึ่งตรงกับการเรียนวิทยาศาสตร์ที่เป้นการเรียนรู้จากการให้คิดและมีเหตุผล เกิดการเข้าใจมโนทัศน์ และสรุปเป๋็นข้อความรู้ด้วยตนเอง


การเรียนวิทยาสาสตร์ เป็นการพัฒนาศักยภาพทางปัญญา 

     1. ความสามารถในการสังเกต การจำแนก การแจกแจง การดูความเหมือน ความต่าง ความสัมพันธ์
     2. ความสามารถในการคิด การคิดเป็นการจัดระบบความสัมพันธ์ของข้อมูลภาพ และสิ่งที่พบเห็นเข้าด้วยกัน เพื่อแปลตามข้อมูลหรือเชื่อมโยงข้ออ้างอิงที่พบไปสู่การประยุกต์ใช้ที่เหมาะสม การคิดเป็น คือ การคิดอย่างมีเหตุผล โดยคำนึงถึงหลักการวิชาการและบริบท
    3.ความสามารถในการแก้ปัญหา ซึ่งมักจักเกิดขึ้นระหว่างการจัดกิจกรรม เด็กจะได้เรียนรุ้จากการค้นคว้าในการเรียนนั้นๆ
    4.การสรูปข้อความรู้ หรือมโนทัศน์จากากรสังเกต และการทดลองจริงสำหรับเป็นพื้นฐานความรุ้ของการเรียนรู้ต่อเนื่อง 




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น